12 วิธี ที่ธุรกิจขนาดเล็กจะสามารถรอดจากวิกฤตการณ์ โควิด -19
07/05/2020

นับเป็นเรื่องประหลาดใจเล็กน้อยที่ธุรกิจขนาดเล็กจะได้รับผลกระทบจาก วิกฤติ โควิด 19 ทั่วทั้งประเทศ
เนื่องจากวิกฤติดำเนินมาสักพักหนึ่ง และเจ้าหน้าที่เรียกร้องให้ประชาชนอยู่บ้าน ในขณะที่บางธุรกิจเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถทำงานจากที่อื่นได้ แต่บางธุรกิจไม่สามารถทำได้
นอกจากนี้ธุรกิจขนาดเล็กยังได้รับผลกระทบทางลบเมื่อผู้คนทั่วไปออกจากบ้านน้อยลง และหันไปหาทางเลือกใน
การช๊อปปิ้งรูปแบบอื่น
และเพื่อเตรียมรับมือกับผลกระทบที่เกิดจาก โควิด 19 ธุรกิจขนาดเล็กจะต้องดำเนินการอย่างชัดเจน แน่วแน่ และเตรียมความพร้อมที่จะได้รับประโยชน์เมื่อฟื้นตัว
โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจาก CPA Australia ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านบัญชีที่ใหญ่ที่สุดในโลก
1. รับฟังข้อมูลข่าวสารอยู่ตลอดเวลา
รับรู้เท่าทันต่อทุกข่าวสารของทางการเกี่ยวกับ โควิด 19 รวมทั้งมาตรการต่างๆ ที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขจะบังคับใช้
2. อัปเดทงบการเงินของคุณ
คุณจำเป็นต้องเข้าถึงข้อมูลสถานะทางการเงินล่าสุดของคุณเพื่อให้มีการตัดสินใจที่ดีในสภาพแวดล้อมที่ยากลาบากนี้
3. เรียบเรียงรายการผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับธุรกิจของคุณ
ประเมินผลกระทบด้านการเงินที่มีต่องธุรกิจของคุณจากงิกฤติ โควิด 19 และพัฒนากลยุทธ์บรรเทาผลกระทบ และหารือกับพนักงาน ซัพพลายเออร์หลัก และลูกค้าหลัก ถึงผลกระทบของ โควิด 19 ที่อาจเกิดข้นกับธุรกิจอขงคุณ ทั้งนี้ธุรกิจของคุณอาจได้รับผลกระทบในด้านต่างๆ ต่อไปนี้
- ยอดขาย หากคุณมีการขายแบบออนไลน์น้อย หรือไม่มีเลย
- ความพร้อมที่จะทำงาน ในภาวะที่มีข้อจากัดในการเคลื่อนย้ายผู้คน ก็ไม่สามารถที่จะไปทำงานได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ไม่สามารทำงานจากบ้านได้
- ห่วงโซ่อุปทาน ในกรณีที่คุณต้องพึ่งพาซัพพลายเออร์ที่ได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรงในส่วนอื่นของโลก
- ด้านการเงิน หากเงินสารองของคุณอยู่ในระดับที่ต่างมาก หากคุณได้รับผลกระทบแล้ว ให้เรียบเรียงรายการว่าผลกระทบเหล่านั้นมีอะไรบ้าง
แต่ในกรณีที่ยังไม่ได้รับผลกระทบ คุณควรคาดการณ์จากข้อมูล ในการเรียบเรียงรายการผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ให้หาจานวนผลกระทบที่มีต่อธุรกิจคุณ และกำหนดกลยุทธ์เพื่อบรรเทาผลกระทบเหล่านั้น

4. ดำเนินการตรวจสอบสุขภาพทางการเงินของธุรกิจคุณ เมื่อคุณรู้สุขภาพทางการเงินของธุรกิจคุณจะช่วยให้คุณสามารถตัดสินว่าคุณสามารถทำสิ่งใด หรือควรทำอะไรเพื่อให้ธุรกิจคุณอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะผ่านพ้นวิกฤติไปได้ คุณสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพทางการเงิน และผลการดำเนินงานได้ด้วยการวิเคราะห์อัตราสวนทางการเงินจากงบการเงินของคุณ
5. จัดทำงบประมาณใหม่ด้วยสมมุติฐานใหม่
สมมุติฐานเดิมที่ใช้ในการจัดทำงบประมาณเดิมอาจไม่ตรงจุดเนื่องจากวิกฤติครั้งนี้ คุณควรจะทำงานร่วมกับฝ่ายบัญชี และเรียบเรียงผลกระทบจาก โควิด 19 และจัดทำงบประมาณใหม่ รวมทั้งบรรดาสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดที่เป็นไปได้ที่ผ่านมา เช่นยอดขายที่ลดลง 50 -80 % ในรอบ 3 ถึง 6 เดือน หรือ ซัพพลายเออร์ไม่สามารถจัดส่งวัตถุดิบที่สำคัญให้คุณเป็นเวลา 6 สัปดาห์ โดยคุณจะต้องพิจารณาสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดของคุณอย่างรอบคอบ
6. ดำเนินการเพื่อปรับปรุงกระแสเงินสดของคุณทันที
ธุรกิจของคุณอาจประสบปัญหาเกี่ยวกับกระแสเงินสดในอนาคตอันใกล้นี้ ด้วยเหตุนี้คุณจึงต้องดำเนินการปรับปรุงกระเสเงินสดทันที
โดยในขั้นแรกคุณจะต้องเตรียมพยากรณ์กระแสเงินสด และอัพเดทอยู่ตลอดเวลาท่ามกลางวิกฤติ ซึ่งอาจจะต้องดำเนินการดังกล่าวทุกสัปดาห์ ซึ่งจะทำให้มีการแจ้งเตือนถึงปัญหากระแสเงินสดล่วงหน้าเพื่อที่ว่าคุณจะได้จัดการกับปัญหานั้นแต่เนิ่นๆ
7. เพิ่มการขายออนไลน์
เพื่อให้ธุรกิจที่มีลูกค้าน้อยไปต่อได้ ธุรกิจขนาดเล็กจำเป็นต้องเริ่มขายแบบออนไลน์ หรือเพิ่มยอดขายทางออนไลน์ นับเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่คุณจะตรวจสอบแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อดูว่าแพลตฟอร์มใดเหมาะกับความต้องการทางธุรกิจของคุณ
นอกจากนี้ให้ทบทวนว่ามีการส่งมอบผลิตภัณฑ์ได้ดีขนาดไหน ซัพพลายเออร์ผู้ให้บริการควรตรวจหาดิจิตัลโซลูชั่นสำหรับบริการจัดส่งที่จะลดการมีปฏิสัมพันธ์ทางกายภาพลง ด้วยเหตุคุณจะต้องเลือกผู้ให้บริการจัดส่งที่มีภูมิลำเนาใกล้กับที่ตั้งของคุณ
8. ใช้แผนสำรองเพื่อรับมือกับวิกฤติ
9. หารือกับซัพพลายเออร์หลัก
หารือกับซพัพพลายเออร์หลักถึงความน่าเชื่อถือในการจัดส่งในช่วงวิกฤตินี้ พิจารณาว่าซัพพลายเออร์มีความสามารถป้อนผลผลิตที่คุณต้องการ และขนส่งผลิตภัณฑ์ให้คุณด้วยค่าใช้จ่าย/ราคาที่คุณตกลง
ซัพพลายเออร์อาจได้รับผลกระทบจากข้อห้ามต่างๆ โดยคุณอาจต้องพิจารณาหาซัพพลายเออร์ที่เป็นทางเลือกอื่นๆ ซึ่งรวมถึงซัพพลายเออร์ในท้องที่นั้นแม้จะมีราคาสูงกวว่าก็ตาม ให้หาซัพพลายเออร์ใหม่ทนทีและต่อรองราคาแต่เนิ่นๆ

10. พิจารณาว่าพนักงานคนใดมีทักษะที่จำเป็นต่อธุรกิจของคุณ และต้องแน่ใจว่าพวกเขาสามารถทำงานต่อไปได้หรือไม่ หรือสามารถหาผู้อื่นทดแทนได้
พิจารณาว่ามีพนักงานรายใดที่ไม่สามารถหาคนอื่นมาทดแทนได้ และฟังก์ชั่นทางธุรกิจใดที่จะต้องดำเนินต่อไป
ให้หาผู้ที่สามารถเรียนงานได้ หรืออาจจ้างมาจากภายนอก
ในกรณีที่พนักงานรายใดสามารถทำงานจากที่บ้านได้ คุณต้องมั่นใจว่าพนักงานนั้นมีอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องการทำงานอยู่กับตัวเขาทุกคืนในกรณีที่คุณได้รับคำสั่งให้ปิดกิจการในระยะเวลากระชั้นชิด
จัดทำบัญชีรายชื่อพิเศษเพื่อให้พนักงานที่สำคัญเพื่อให้เขาสามารถดำเนินงานระบบทางธุรกิจที่จำเป็น รวมทั้งกระบวนการต่างๆ ต่อไปได่ตลอดเวลา
11. ตรวจสอบสภาพความเป็นจริงของธุรกิจคุณ
จงหาโอกาจากวิกฤตินี้เพื่อสะท้องให้เห็นสภาพของธุรกิจคุณว่า มีการดำเนินการอย่างไร และสิ่งที่คุณต้องการดำเนินการหลังจากที่วิกฤติผ่านพ้นไป และตรวจสอบว่าการดำเนินงานนั้นยังถูกต้องในแง่คิดของคุณหรือไม่
คุณสามารถมองเห็นโอกาสใหม่ๆ ของธุรกิจคุณที่อาจเกิดขึ้นมาหลังวิกฤตินี้หรือไม่?
12. หากคุณคิดว่าคุณประสบปัญญาทางการเงิน ให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญแต่เนิ่นๆ
ในช่วงวิกฤติ พึงตั้งคำถามต่อไปนี้อย่างสม่ำเสมอ
- ธุรกิจของคุณสามารถชำระผู้ให้กู้ ภาษี จ่ายเงินเดือน และชำระเงินกู้ยืมที่ถึงกำหยดชำระคืนได้หรือไม่
- คุณมีเงินสำรองเพียงพอที่จะชำระหนี้ที่ถึงกำหนด และค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ต้องชำระในอีกสองสามเดือนข้างหน้าหรือไม่
หากคุณตอบว่าไม่ คุณควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทันที เพราะบริษัทของคุณอาจล้มละลาย หรือใกล้จะล้มละลาย
หากธุรกิจขนาดเล็กชองคุณประสบปัญหาทางการเงืน พึงระมัดระวังกับผู้ที่โทรมาเพื่อเสนอตัวแก้ไขปัญหาทางการเงิน
ผู้คนเหล่านั้นอาจแนะนำให้คุณเพิ่มสภาพคล่องให้กับบริษัทคุณด้วยการไม่ชำระหนี้ หรือดำเนินงานต่อไปภายใต้บริษัทใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีจริยธรรม และผิดกฎหมาย
หากมีคนโทรมาหาคุณและให้คำแนะนำข้างต้น ให้คุณพูดคุยกับฝ่ายบัญชี หรือทนายความของคุณ
Counter: 3082